สูตรอาหาร

ร่วมสร้าง COOK BOOK ส่วนตัว
เพียงแนะนำสูตรอาหารของคุณที่นี่

เริ่มเลย!

เปิดปูมเรื่องของไวน์

WITOON’S COCKTAIL & WINE SCHOOL 25 Oct 2553 12:16:55 8097 view

ไหนๆเราจะมาเป็นคอไวน์ด้วยกันทั้งที มาเปิดปูมไวน์ ดูที่ไปที่มา และการแยกประเภทของไวน์ เอาอย่างถูกต้องกันจริงๆสักทีจะดีไหมครับ

คำว่าไวน์ มาจากไหน

เรามาเริ่มต้นด้วยคำว่า VINE  กันเสียก่อนดีกว่า   ซึ่งคำๆนี้เดิมทีก็มีรากศัพท์มาจากคำว่า เถาวัลย์   หรือ  เถาองุ่นนี่แหละครับ  แล้วเขาเอาองุ่นมาทำไวน์  เลยกลายมาเป็นคำว่า  WINE  กันจนกระทั่งทุกวันนี้ และถ้าจะว่ากันไปแล้ว  ไวน์ นี่ถือว่าเป็นเกษตรกรรมที่เก่าแก่สาขาหนึ่งของโลก  ที่สืบตกทอดมาถึงยุคร่วมสมัยนี้กันเลยทีเดียว นอกจากนี้เรายังเชื่อกันอีกว่า  มนุษย์เราได้ค้นพบการทำไวน์  มาตั้งแต่กำเนิดอารยธรรมถึงปัจจุบันกาล  จนได้ยอมรับถึงคุณค่าของไวน์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์  ไม่ว่าจะเป็นในด้านศาสนากิจ  ,งานรื่นเริงสังสรร   หรือแม้กระทั่งเป็นไวน์บำบัด  ที่ใช้ระงับหรือล้างชำระบาดแผล

กำเนิดของไวน์ มาจากองุ่น

แหล่งกำเนิดของไวน์

ถ้าจะมาพูดกันถึงแหล่งกำเหนิด ไวน์ ก็เข้าใจว่า  เดิมทีน่าจะมาจากแถวแถบเปอร์เซีย  โดยแหล่งอารยธรรมโบราณที่คุ้นกับ ไวน์ กันดี  น่าจะไม่หนีไปจากพวกชาวอียิปต์ ,  โพนิเซียน ,  กรีก ,  โรมัน  เท่านั้นยังไม่พอ  

เหยือกเก็บไวน์สมัยโบราณ



คนเหล่านี้บางครั้งยังนำเอาไวน์ไปปรุงผสม    ต่อกับสมุนไพรอีกหลายหลากชนิด  ซึ่งในเวลาต่อมาเลยได้แยกเรียกไวน์พวกนี้ไปเลยว่า AROMATIZE WINE ที่หมายถึงไวน์ประเภทที่มีการแต่งกลิ่น  เช่นอาจใส่พืชที่มีกลิ่นหอมหรือเครื่องเทศลงไป  ให้มีกลิ่นหอมดียิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น DUBONET ซึ่งเหมาะสำหรับสตรี  และผู้ที่ผอมแห้งแรงน้อย  คือช่วยเจริญอาหารได้เป็นอย่างดี
 จากนั้นอีกไม่นานหลายประเทศทั่วโลก  ต่างก็ได้มีการผลิตไวน์ประเภทนี้กันอย่างเอิกเกริกซึ่งประเทศที่ทำการผลิตปริมาณสูงสุด  และลดหลั่นกันไปคือ  อิตาลี  ฝรั่งเศส  สเปน  อาร์เจนตินา อัลจีเรีย  รัสเซีย  สหรัฐอเมริกา  และแม้กระทั่งปอร์ตุเกส

ประวัติศาสตร์ของการผลิตไวน์

 

ประวัติศาสตร์การผลิตไวน์ในอเมริกา


แต่เมื่อพูดถึงคุณภาพก็ยังต้องยกนิ้วให้ฝรั่งเศสเขา  ด้วยเหตุผลหลายประการ  ที่สำคัญก็คือสภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย     ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะทางภาครัฐบาล   เขาได้ให้ความสำคัญ  สนับสนุน  ควบคุมดูแลกันใกล้ชิดอย่างจิงจังและต่อเนื่องตลอดมา ส่วนไวน์จากเยอรมันจะว่ากันไปแล้ว  ก็จัดว่ายอดเยี่ยมไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ากันสักเท่าไหร่  ถึงแม้ว่าปริมาณการผลิตจะน้อยกว่าประเทศที่กล่าวถึงแล้วก็ตาม

ตำแหน่งบริเวณที่มีการปลูกไวน์ในประเทศฝรั่งเศส

ประวัติการกำเนิดของไวน์

ซึ่งเรื่องนี้บางตำราก็โยงใยไปพัวพันถึงศาสนาคริสต์เมื่อครั้งกระโน้นเอาเลย โดยกล่าวว่าในพระคัมภีร์นั้น   ได้มีการพูดถึงเรื่องไวน์นี้ไว้ถึง   521 ครั้ง  และเทพ DIONYSOS-  เทพ  BACCHUS  ได้นับถือกันว่านี่แหละคือเทพผู้สร้างไวน์
และในสมัยอาณาจักรโรมันเรืองอำนาจนั้น    ชาวโรมันได้ตำหรับการทำไวน์จากชาวกอล ( GAUL ) เมื่อชาวโรมันยาตราทัพสู่ที่ใด  ก็ได้เผยแพร่ความรู้เรื่องไวน์นี้ไปสู่ดินแดนนั้น 

เทพ DYONISOS  เทพแห่งการเก็บเกี่ยวองุ่น God of Grape harvest    Bacchus God of wine เทพเจ้าแห่งไวน์ของกรีก

เทพ DIONYSOS        เทพ  BACCHUS 

ประวัติศาสตร์และเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวกับไวน์

  •  ศตวรรษที่ 1  การปลูกและการปรุงผสมไวน์ได้มีการถ่ายทอดเข้าสู่เขตหุบเขาโรน ( RHONE ) ก่อนเป็นอันดับแรก
  •  ศตวรรษที่ 2  ศาสตร์แห่งไวน์ถึงได้เปิดฉากเผยแพร่สู่เขตเบอร์กันดี ( BURGUNDY ) และบอร์โดว์ ( BORDEAUX ) ตามลำดับ
  • ศตวรรษที่ 3  จึงมีอิทธิพลไปสู่หุบเขาลัวร์ ( LOIRE )
  • ศตวรรษที่ 4  ถึงได้ประสิทธิ์ประสาทเข้าไปในเขตแชมเปญ ( CHAMPAGNE ) และโมแซล ( MOSELLE ) 
  • เมื่ออาณาจักรโรมันถึงจะเสื่อมและล่มในเวลาต่อมา  แต่ศาสตร์การปลูกและทำไวน์ก็หาได้ล่มสลายลงไปไม่  โบสถ์คริสจักรต่างๆยังรักษาไร่องุ่น  และดำรงศาสนกิจนี้ไว้เรื่อยมา  โดยเฉพาะนักบวชชาว  BENEDICTINE ได้มีบทบาทสำคัญในการธำรงและพัฒนาศาสตร์นี้สืบทอดมาจนทุกวันนี้ ดังนั้นในยุคกลางจะเห็นว่ามีไวน์อยู่ในทุกแคว้นของดินแดนฝรั่งเศส
  • ในศตวรรษที่ 12 ไวน์ฝรั่งเศสได้เริ่มส่งออกสู่ลูกค้าที่สำคัญอันได้แก่  อังกฤษ , ฟาแลนเดิส ( FLANDERS ) และเยอรมัน  อันเป็นเหตุให้มีการรักษามาตรฐานเข้มงวดขึ้นโดยเฉพาะ 1385 ดยุคฟิลิปของแคว้นเบอร์กันดี   ได้เริ่มวางมาตราฐานรักษาคุณภาพให้เป็นขั้นตอน  หลังจากนั้นต่อมา  ไวน์ได้มีส่วนสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับโรงแรม  ซึ่งเป็นแหล่งกินอยู่ของผู้คนสัญจรไปมา  
  • ในศตวรรษที่ 18 ได้มีการบรรจุขวดและปิดด้วยจุกก๊อก  เพื่อให้ไวน์ได้มีเวลาสำหรับบ่ม  แทนที่จะนำมาดื่มสดๆ  ตั้งแต่ไวน์ยังเพิ่งรินใหม่ๆจากถังหม้อเก็บ   ไร่องุ่นได้ค่อยๆขยายจาก  3.830.000 เอเคอร์  ในปี 1770 เป็น 5.042.500 เอเคอร์ ในปี 1
  • แต่ในศตวรรษที่ 19 ประวัติศาสตร์ไวน์ได้ประสพโศกนาฎกรรม  โดยประมาณปี1884 ไร่องุ่นแทบทั้งหมดของฝรั่งเศส  ถูกทำลายโดยโรค PHYLLOXERA ( เกิดจากแมลงศัตรูพืชมีถิ่นเดิมจากอเมริกา )

Phylloxera แมลงศัตรูของไร่องุ่น ใบของต้นองุ่นติดเชื้อจาก Phylloxera

  • แต่แล้วในที่สุดก็ได้ค้นพบวิธีต่อตาต้นองุ่นฝรั่งเศส   เข้ากับต้นเชื้อพันธุ์อเมริกันที่ปลอดภัยจากโรคดังกล่าว  ไร่ที่มีเชื้อดังกล่าวต้องถูกทำลายและปลูกแทนใหม่  บางส่วนต้องถูกปล่อยร้างอย่างน่าเสียดายอุบัติการณ์ที่เลวร้ายใช่จะจบสิ้นเสียทีเดียว  เมื่อพบว่าได้มีการทำไวน์อย่างผิดๆถูกๆ  รวมทั้งการปลอมหรือผสมไวน์แบบไม่ถูกต้องเกิดขึ้น  จนต้องมีร่างกฏออกมาบังคับติดๆกัน
  • เมื่อ  14  สิงหาคม  1888 ได้เพิ่มมีการควบคุมปริมาณผลิตผล และออกกฏ SERVICE DE LA REPRESSION  DES  FRAUDES ในปี 1805  ออกมา จากนั้นในปี 1807 จึงมีการปฏิรูปผู้ผลิตที่นำโดยจักพรรดิ MARCELIN ALBERT ขึ้นมาอีกครั้ง
  • ระหว่างสงครามโลกที่ 1 เกิดการขาดแคลนไวน์อยู่ระยะหนึ่ง  จนในปี 1831-1839 ได้มีการผลิตไวน์ล้นจนเกินความต้องการ   จนรัฐบาลฝรั่งเศสต้องเข้าแทรกแซง โดยออกกฏลงโทษผู้ผลิตเกินและห้ามการปลูกองุ่นใหม่  รวมทั้งมีการผ่านกฏหมายควบคุม APPELLATION D’ORIGINE CONTROLEE ( A.O.C ) ,
    VINS DE LIMITES DE QUALITE SUPERIEURE ( V.D.Q.S ) , VINS DE PAYS และล่าสุดได้แก่ VINS DE TABLE 
    ซึ่งเท่ากับเป็นการจัดคุณภาพไวน์ฝรั่งเศสแบบกว้างๆ  จากสูงลงลำดับล่างตามลำดับอันทำให้ไวน์ฝรั่งเศสได้รับความเชื่อถืออย่างสูงสุด  และเป็นที่เลื่องชื่อไปทั่วโลก 
       

Comment (0)

Write Review

ยิ้ม ฮา กระพริบตา ตะลึง อ้าปากหวอ แลบลิ้น ร้องไห้ หน้าบึ้ง ขมวดคิ้ว โกรธ ยิ้มมีเลศนัย แหวะ ใส่แว่น ซีดเซียว เหงื่อตก เอ๋อจับ เอ๋อจับ Quuu สบายใจ แจ่ม !! ตายซาก โมโหสุดๆ หัวงู ฉลอง เย้ หลับกลบเกลื่อน ยกนิ้วให้ แย่มั่กๆ อันตราย ยิ้มกว้าง หัวเราะ กระพริบตา เท่ห์ ขอโทษ ท้อแท้ หลับ หงุดหงิด ตัวป่วน rrrrrrrrr โอ้ว เฮ้อ ร้องไห้ ดีใจ ฉุน งัวเงีย น่ารัก เริงร่า

Official Editor

Warm Welcome

Foodie

ผู้หลงรักการทำและชิมอาหาร

Partner

พันธมิตร และแบรนด์วัตถุดิบอาหาร

Professional service

หน่วยงานและองค์กร

Contact Us

Bangkok Thailand

+6681 559 9599

foodietaste88@gmail.com