วิเคราะห์และแยกแยะความต่างระหว่าง... เต้าเจี้ยวจีน VS มิโสะญี่ปุ่น : FoodieTaste สูตรอาหาร วิธีทำอาหาร

แม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจาก “ถั่วเหลือง” เหมือนๆ กัน แล้วความต่างของมันคืออะไร?
จริงๆ แล้วกระบวนการในการทำ “เต้าเจี้ยว” และ “มิโสะ” ทั้ง 2 อย่างนี้ แม้วัตถุดิบหลักจะเหมือนกัน แต่ในขั้นตอนของการหมักดอง และการนำไปใช้งานจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย

ตรงที่ ซึ่งเต้าเจี้ยว จะเป็นการนำถั่วเหลืองเต็มเมล็ดไปแช่น้ำ ต้ม แล้วนำมาคลุกเคล้ากับแป้งสาลี จนเกิดเชื้อราชนิดดี จากนั้นจึงนำไปหมักกับน้ำเกลือ ปิดฝาให้สนิทและเก็บไว้ในที่เย็น ไม่โดนแดดราว 3-6 เดือน
ส่วนมิโสะ จะใช้วิธีการนำถั่วเหลืองไปแช่น้ำ นึ่งจนสุก แล้วนำไปบดละเอียด จากนั้นก็มาผสมกับหัวเชื้อโคจิและเกลือ หมักเพื่อให้เกิดกรดแล็กติก บ่มไว้ที่ที่อุณหภูมิประมาณ 25-28 องศาเซลเซียส และหมักนานเกินกว่า 1 ปีขึ้นไป
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการของประเทศไหน ถั่วเหลืองที่ผ่านกระบวนการที่ได้ออกมานั้น ก็ถือเป็นเครื่องปรุงรสที่ให้ความอุมามิคล้ายกัน และเป็นเบสให้กับอาหารในท้องถิ่นของตนคล้ายกัน สำหรับเต้าเจี้ยวแบบจีนอาจจะนำไปเป็นส่วนผสมของเครื่องปรุงรส ถ้าอยู่ในไทยก็มักจะนำไปใช้ทำเครื่องจิ้ม ส่วนมิโสะของ ญี่ปุ่นจะเน้นในการนำไปทำซุปมากกว่า
แต่ทั้งสอง ก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ในตัวของตัวเอง แถมยังอุดมไปด้วยโปรตีน เกลือแร่ เหล็ก และโพแทสเซียม ช่วยในการจริญเติบโตของกระดูก มีธาตุเหล็กช่วยบำรุงโลหิต และมีวิตามินเอ บี1 บี2 ดี อี เค และไนอะซีน ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายเหมือนๆ กันนั่นเอง
#FoodieTaste
#FoodieTasteThailand
#คิดจะทำอาหารคิดถึงฟู้ดดี้เทสต์

Write Review