กลางวันทำงาน กลางคืนดูฟุตบอลโลก 2010 พักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดอาการเมื่อยล้าของดวงตา การไปหาหมอตรวจตาทุกปี คอยล้างแว่นและคอนแทคเลนส์ให้สะอาด ไม่ใช่วิธีเดียวที่จะดูแลถนอมดวงตา การเลือกอาหารก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยบำรุงดวงตาได้
กลางวันทำงาน กลางคืนดูฟุตบอลโลก 2010 พักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดอาการเมื่อยล้าของดวงตา การไปหาหมอตรวจตาทุกปี คอยล้างแว่นและคอนแทคเลนส์ให้สะอาด ไม่ใช่วิธีเดียวที่จะดูแลถนอมดวงตา การเลือกอาหารก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยบำรุงดวงตาได้
ศาสตราจารย์ เอียน เกรียร์สัน แห่งภาควิชาจักษุวิทยา มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล บอกว่า สารอาหาร เช่น วิตามินซี น้ำมันโอเมก้า - ทรี และโมเลกุลในพืชผัก เป็นอีกหนึ่งทางเลือก "ปัญหาดวงตา เช่น ต้อกระจก ต้อหิน และจุดด่าง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ตาบอด มีผลมาจากสิ่งที่เรากิน การกินผักผลไม้เพิ่มขึ้นจะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมากในอนาคต"
ต่อไปนี้เป็นชนิดอาหารที่จะช่วยให้ดวงตามีสุขภาพดีและสายตาคมชัด
ผักใบเขียว
ผักโขม คะน้า บร็อกโคลี กะหล่ำ เป็นแหล่งของสารให้เม็ดสี คือ ลูทีน กับซีแซนทีน ซึ่งเรตินาจะอาศัยเม็ดสีเหล่านี้ในการสร้างภาพที่คมชัด
"ผลวิจัยบ่งบอกว่า โมเลกุลของพืชเหล่านี้ช่วยเสริมเม็ดสีในดวงตา ซึ่งจะร่อยหรอลงเมื่อคนเราได้รับแสงอย่างต่อเนื่อง" ศ.เกรียร์สันบอก งานวิจัยของสถาบันดวงตาแห่งชาติของสหรัฐพบว่า การมีเม็ดสีเพิ่มขึ้นช่วยป้องกันไม่ให้ตาบอดได้
กินมากแค่ไหน ? พยายามกินผักใบเขียวให้ได้ 100 กรัม ทุกวันเว้นวัน อาจเป็นสลัดหรือผัดผักต่างๆ
ไข่
นับแต่นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเซอร์เรย์สรุปว่า ไข่ไม่ได้เพิ่มคอเลสเตอรอล อาหารชนิดนี้ก็กลับมาอยู่ในรายการของกินบำรุงสุขภาพอีกครั้ง และเป็นอาหารที่มีประโยชน์แก่ดวงตาเช่นกัน เพราะในไข่แดงก็มีแหล่งของสารเม็ดสีในดวงตา คือ ลูทีนกับซีแซนทีน
กินมากแค่ไหน ? ไข่คน หรือไข่ลวก เป็นอาหารเช้าสัก 2 ฟอง ในทุกวันเว้นวัน หรือจะทำไข่เจียว หรือเอาไข่แดงมาทำน้ำมายองเนสใส่สลัดก็ได้
น้ำมันปลา
สถาบันดวงตาแห่งชาติของสหรัฐวิจัยพบว่า การได้รับโอเมก้า - ทรีในน้ำมันปลาเพิ่มขึ้น ช่วยลดโอกาสที่จะเป็นต้อหิน และจุดภาพชัดเสื่อมสภาพ และช่วยไม่ให้ดวงตาแห้ง ซึ่งเป็นผลจากการผ่าตัดดวงตาด้วยเลเซอร์
งานวิจัยชิ้นหนึ่งในวารสาร American Journal of Clinical Nutrition พบว่า เมื่อสตรีที่มีอาการดวงตาแห้ง กินเนื้อปลาทูนาสัปดาห์ละ 5 มื้อ อาการก็จะลดน้อยลง 68%
กินมากแค่ไหน ? สัปดาห์ละ 2 - 3 มื้อต่อคน จะช่วยบำรุงฮอร์โมน สมอง ผิวหนัง และช่วยบำรุงสายตา
ผลไม้สด
ผลวิจัยพบว่า วิตามินชนิดต่างๆ โดยเฉพาะวิตามินซี ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเกี่ยวกับดวงตาทั้งหลายได้ ศาสตราจารย์เกรียร์สันบอกว่า การกินผักผลไม้ให้มากขึ้นจะเป็นผลดีต่อดวงตาอย่างแน่นอน
กินมากแค่ไหน ? กินผลไม้สดในตอนเช้า ผักต่างๆ เช่น บร็อกโคลี ก็มีประโยชน์มาก กินดิบๆ เป็นสลัดก็ได้ หรือนึ่งเล็กน้อยเพื่อให้ได้วิตามิน
กระเทียม หอมหัวใหญ่ หอมแดง เคเปอร์
ผลการวิจัยพบว่า มีซัลเฟอร์อยู่ในปริมาณที่มาก ซึ่งช่วยในการสร้างสาร กลูต้าธิโอน (glutathione) วึ่งเป็นตัวแอนตี้ออกซิแดนท์ (antioxidant) สำหรับเลนส์ในดวงตา และร่างกาย
บลูเบอร์รี่ องุ่น
สาร anthocyanins ในผลไม้ มีส่วนเพิ่มความสามารถในการมองในที่มืดได้ดี มีการทดลองพบว่าถ้ารับประทาน บลูเบอร์รี่ 1 ถ้วย , แยม huckleberry จะช่วยการมองในที่มืดได้ดีขึ้น ราว 30 นาที
โกจิเบอร์รี่
โกจิเบอร์รี่ นิยมมากในประเทศจีน สารในโกจิเบอร์รี่ ช่วยในการมองในที่มืดได้ดี ช่วยลดระยะเวลาในการปรับตัวต่อที่มืดได้ดี, ลด Blind spot
ที่มา : http://www.eyerobics.com.au/eyesight_food.html, หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
รักการทำอาหารไทยและขนมหวานโบราณ โดยยึดต้นตำรับชาววัง และเป็นผู้เขียนหนังสือ "เลาะรั้วครัววัง"
อาจารย์ มาโนชญ์ พูลผล
ที่ปรึกษาการถ่ายภาพ ช่างภาพ วิทยากร บรรยายเรื่องการถ่ายภาพ ของ NIKON THailand
อาจารย์ สยาม เอี่ยมพิชัยฤทธิ์ (ที่ปรึกษาการถ่ายภาพ )
ไม่น่าเชื่อว่าระยะเวลา 365 วันผมทำอาหาร แทบจะไม่ซ้ำกันเลย ด้วยวัตถุดิบของผมก็ได้ จากตลาดใกล้บ้าน
ทนายอ้วน (Chubby Lawyer)
Chef Instructor of Western Culinary Arts of Dusit Thani College
เชฟเบิ้น Wachiravit Homboonyong
Foodie
ผู้หลงรักการทำและชิมอาหาร
Partner
พันธมิตร และแบรนด์วัตถุดิบอาหาร
Professional service
หน่วยงานและองค์กร
Comment (0)