หมี่กะทิ​ หรือ​ หมี่สยาม​ (มีเซียม)​ ที่หลายคนคงคุ้นตากับเส้นหมี่ผัดสีชมพูพาสเทลฟรุ้งฟริ้ง​ มีไข่เจียวเป็นเส้นๆ​ โรยหน้า​ รับประทานเคียงกับถั่วงอกและกุ้ยช่าย​ อะไรแบบนั้น

แต่เชื่อไหมครับว่า... เจ้าหมี่กะทิเนี่ย​ ถือเป็นรากของวัฒนธรรมอาหารจานเดี่ยวในยุคก่อนเลยนะครับ​ เมื่อก่อนตัวเส้นจะมีสีแดงเรื่อๆ​ จากมะเขือเทศเท่านั้น​ แต่ก็ถูกประยุกต์ต่อมาเรื่อยๆ​ จนกระทั่งในปัจจุบัน​ เริ่มนำซอสเย็นตาโฟมาใส่เพื่อให้ออกสีชมพูสวยงามแบบที่เห็น
.
ซึ่งตามความหมายเดิม "หมี่กะทิ" นั้นมาจากการผัดเส้นหมี่เข้ากับซอสรสเปรี้ยว เผ็ด และหวาน เคยเป็นอาหารที่นิยมกันมากในสิงคโปร์​ และมาเลเซีย ซึ่งเค้าจะเตรียมน้ำซอสรสจัดปรุงไว้​ เพียงแค่นำเส้นและวัตถุดิบอื่นๆ​ ลงไปผัดๆๆ​ ก็เป็นอันเสร็จพิธี​ จึงทำให้มันกลายเป็นรากของอาหารจานเดี่ยวที่รับประทานง่าย​ สะดวก​ และรวดเร็ว
.
เราจะเห็นเมนูนี้กันได้บ่อยๆ​ ไว้ใช้รับแขกตามงานต่างๆ​ โดยเฉพาะงานมงคล​ ตามต่างจังหวัด​ บางที่ถึงกับตั้งชื่อเรียกว่า​ "หมี่แขกเลยทีเดียว" ซึ่งตามแต่ละภาคก็จะมีสูตรเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป​
.
อย่างในภาคอีสาน​ ก็จะมีหน้าตาคล้ายๆ​ กับขนมจีนน้ำพริก​ ที่ใช้เส้นเล็กนำมาลวก​ และคลุกเคล้าเข้ากับกระเทียมเจียว​ มีน้ำราดแยก ส่วนภาคใต้​ ก็จะใช้พริกแกงพริกเผา​ นำมาผัดกับกะทิ​ ใช้เส้นเล็กลงผัด​ ใส่เฉพาะเต้าเจี้ยว​ ไม่ใส่น้ำปลา​ ด้านเนื้อสัตว์ก็เป็นพวกกุ้ง​ หัวกุ้ง​ หมู​สับ​ หรือกากหมู​แล้วแต่พื้นที่​ หรือเรียกกันในชื่อ​ "หมี่ฮุ้น"
.
ส่วนในภาคกลาง ก็ใช้วิธีผัดเส้นหมี่เข้ากับซอสที่ทำมาจากกะทิ ใส่หมู เต้าเจี้ยว น้ำมะขามเปียก อาจแต่งสีด้วยซอสแดงหรือซอสมะเขือเทศ​ ซึ่งเมนูนี้ถือเป็นเมนูโปรดอย่างมากของแม่เลยทีเดียวครับ​ เวลาเจอเมนูนี้ที่หน้าตาน่าทาน​ จึงมักทำให้ผมนึกถึงแม่เสมอๆ​
.
ส่วนใครอยากลองทำ​ วันนี้ผมก็มีสูตรประยุกต์ของทางภาคกลางมาฝากด้วยนะครับ​ สูตรนี้ Food​ieAdmin ที่ลิ้งค์นี้เลยครับ​ >> http://www.foodietaste.com/recipe_detail.asp…