ปัจจุบัน เหตุผลในด้าน สุขภาพพลานามัย รายได้ครอบครัว ความยั่งยืน ภาวะโรคร้อน สิ่งแวดล้อม และ ความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการบริโภคสินค้าอาหารในตลาดสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญวงการอาหารมืออาชีพ ของสหรัฐฯ คือ บริษัทให้คำปรึกษา Culture Waves และ International Food Futurists ได้เสนอแนะแนวโน้มและทิศทางของอาหารที่จะได้รับความนิยม 10 อันดับประจำปี 2553 ดังนี้
1. อาหารที่กลับสู่ธรรมชาติ ความเป็นจริง (Keeping It Real)
หันกลับไปใช้วัตถุดิบขั้นพื้นฐาน (Basic Ingredients) ที่เป็นธรรมชาติ เน้นความเรียบง่าย (Simple),สะอาด (Clean),บริสุทธิ์ (Pure) และมีความยั่งยืน (sustainable) เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะปรุงอาหารรับประทานเองที่บ้านมากขึ้น ดังนั้นจึงคำนึงถึงเรื่องการเลือกซื้อวัตถุดิบมาใช้หรือเก็บไว้ใช้ ผู้บริโภคจะเปลี่ยนพฤติกรรมจากการซื้ออาหารสะดวกซื้อ(Convenience Food) ไปสู่การจัดเตรียมวัตถุดิบเพื่อปรุงอาหารรับประทานเอง ประโยชน์ที่ผู้บริโภคได้รับคือ การเรียนรู้วิธีการปรุงอาหาร
2. ทดลองของใหม่ (Experimentation Nation)
ปัจจุบันร้านอาหารมีรูปแบบ (Concepts & Style) ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและมีหลายแบบให้ผู้บริโภคเลือก เช่น Gastropubs ที่เน้นอาหารคุณภาพ บรรยากาศ สบายๆเป็นกันเอง หรือร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่น (Fusion) ที่ผสมผสานอาหารจากหลาย ๆ ชาติหรือร้านอาหารสไตล์ Communal Tables ที่มีโต๊ะขนาดใหญ่ที่สามารถนั่งรวมๆ กันได้หลายๆ คน หรือแบบโต๊ะแชร์โต๊ะนั่งร่วมกัน (Shareables) สำหรับรูปแบบใหม่ของการให้บริการอาหารในปี 2553 จะมีการเสนอรูปแบบที่ให้ผู้บริโภคสามารถมีส่วนร่วมในการปรุงอาหาร หรือให้ผู้บริโภคสามารถปรุงอาหารได้ด้วยตนเอง ที่ร้านอาหาร (DIY-Do it Yourself) และได้ความสดใหม่ของวัตถุดิบ
3. เพิ่มความหลากหลาย ( More in Store)
ร้านค้าของชำ (Grocery) จะมีจำนวนมากขึ้น และจะเสนอสินค้าอาหารที่ใช้แบรนด์ของตนเอง (Private Label) และ ลดการจำหน่ายสินค้า Brand Name ของโรงงานผลิต
อาหาร นอกจากนั้นแล้ว ร้านชำจะปรับปรุงและยกระดับร้านสินค้า โดยจัดชั้นวางสินค้าให้เห็นง่ายรวมทั้งให้บริการจัดส่งอาหาร (Catering) แก่ผู้สูงอายุ การจัดบริเวณซื้อและรับ อาหารเย็นกลับบ้าน(Carryout-Togo) ที่มีความสดและมีคุณภาพ จัดบริเวณให้มีความสะดวกแก่ผู้มาใช้บริการที่ต้องนั่งรถเข็น การติดต่อทางอินเตอร์เน็ต เช่น Twitter จะมีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคได้รับรู้ข้อมูล เลือกหาร้านค้าที่ขายสินค้าราคาพิเศษ ฯลฯ
4. อเมริกัน กลุ่มชาติพันธุ์ใหม่ (American, the New Ethnic)
เนื่องจากประเทศอเมริกาเป็นประเทศที่มีพลเมืองผู้อพยพหลายเชื้อชาติอาศัยรวมตัวอยู่ด้วยกัน (Melting Pot) เสมือนหนึ่งเป็นอาหารในจานเดียวกัน จึงทำให้รสชาติของอาหาร
มีความผสมผสานหลากหลาย กลายเป็นกระแสรสชาติใหม่ระดับโลก (Global Flavor Curve) มีทั้งรสชาติแบบแอฟริกัน ญี่ปุ่น เม็กซิกัน เอเชีย อิตาเลี่ยน หลายเมืองในสหรัฐฯ ที่ผู้บริโภคนิยมรับประทานอาหารไทย และร้านอาหารไทยบางร้านก็มี เฟรนช์ไฟร์ (French Fries) ในเมนู ดังนั้นร้านอาหาร หรือ ร้านค้าของชำที่ให้บริการอาหารในรูปแบบผสมผสานชาติพันธุ์ใหม่ เข้าไปจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภค อีกทั้งผู้บริโภคสามารถนำสูตรอาหารของประเทศต่างๆ มาปรับใช้ผสมผสานจนเป็นรสชาติใหม่
5. แหล่งที่มาของอาหาร (Food Vetting)
ความปลอดภัยสินค้าอาหาร(Food Safety) อินทรีย์ (Organic) สิ่งแวดล้อม(Environment) และ การค้าแบบเป็นธรรม (Fair Trade) เข้ามามีบทบาทและเป็นปัจจัยสำคัญต่อการจัดสินค้าซื้อสินค้าอาหาร ที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ และต้องการทราบว่าสินค้าอาหารมีแหล่งที่มาอย่างไรและมีความปลอดภัยขนาดไหนก่อนตัดสินใจซื้อ เช่น ปลาที่ปลอดสารเมอรคิวรี่หรือไม่สินค้าได้รับการรับรองด้าน Organic หรือ Fair Trade หรือไม่ หรือเป็นสินค้า Eco-Friendly ไม่มีสารอันตรายหรือปราศจากยาฆ่าแมลง
Comment (1)
เด็กเทพ
]
แจ้งลบ