ไม่ว่าจะเป็น สเตชั่นอาหารญี่ปุ่น มาทั้งซูชิ ชาชิมิ โรบาตายากิ สเตชั่นโคลด์ คัต (Cold Cuts) ถือเป็นโซนที่มาเอาใจคนรักชีสเลยก็ว่าได้ เพราะมีชีสหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลก มาให้ได้ชิมกันอย่างจุใจ และถ้าใครสายสุขภาพ ก็ไปที่โซนสลัดผัก ซึ่งเชฟจะทำสลัดให้แบบสดใหม่น่ากิน
อีกสเตชั่นที่ขาดไม่ได้คือ Seafood ที่มีให้เลือกทั้งหอยนางรมสดๆ ขาปูอลาสก้า กุ้งลายเสือ พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ส่วนใครชอบอาหารรสแซ่บ ก็ยังมีส้มตำเอาไว้ให้ใส่วัตถุดิบหรือจะปรุงเองก็ได้ตามชอบอีกด้วย
ส่วนสเตชั่นของหวานและเบเกอรี่ก็มีให้เลือกเพียบ และที่พิเศษก็คือไอศกรีมโฮมเมด ที่มีมาให้อร่อยหลายรสชาติ แถมยังสามารถเลือกผสมท๊อปปิ้งได้แบบไม่อั้น
และไฮไลท์อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของ Red Oven นั้นก็คือ เตาโมลทานี สีแดง (Molteni) ที่มีขนาดยาวที่สุดในเอเชียตะวันเฉียงใต้ และยังเป็นที่มาของชื่อห้องอาหารด้วย
โดยบริเวณเตาโมลทานีจะเป็นสเตชั่นของพาสต้า เนื้ออบ ไก่อบ อาหารไทย อาหารจีน แต่ละเมนูจะปรุงแบบสดใหม่ พร้อมเสิร์ฟตลอดเวลา เรียกว่ามื้อเดียว อิ่มอร่ยยคุ้มค่าแบบสุดๆ
มนต์เสน่ห์แห่งรสชาติ ที่สะท้อนผ่านวัตถุดิบ
นอกจากไลน์บุฟเฟ่ต์แล้ว ก็ยังมีในส่วนของ A la carte ซึ่งวันนี้โชคดีมาก ที่เชฟเบนจามิน มัวรีซ (Chef Benjamin Sadoun) เฮดเชฟของห้องอาหาร Red Oven ได้มาแนะนำอาหาร และรังสรรค์เมนูจานพิเศษออกมาให้เราได้ลิ้มลอง แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีอยู่ในห้องอาหาร แต่เชฟได้ว่างแพลนไว้จะทำขึ้นในอนาคต
เริ่มต้นเมนูแรก กับจานที่เป็นสัญลักษณ์ของเชฟ คือ “Bluefin Tuna Tartar with Passion Fruit” เมนูทำง่ายๆ แต่เน้นเรื่องความสำคัญของวัตถุดิบที่ดีเยี่ยม อย่าง “บลูฟิน ทูน่า” นำมาคลุกเคล้าด้วยแยมผลไม้ เสาวรสสด น้ำมันมะกอก และซอสถั่วเหลือง เติมอัลมอนด์สไลด์ งาดำและงาขาว ลงไปนิดหน่อย ตกแต่งด้วยใบผักชี กับซอเรลเส้นใบแดง แล้วบีบเลมอนปิดท้ายก่อนเสิร์ฟ เพื่อเป็นการตัดรสและทำให้สีของทูน่ายังดูสวยสดน่ารับประทาน
ต่อด้วยเมนู “Surf and Turf“ จานนี้เชฟนำอาหารทะเลมาทวิสเข้ากับเนื้อวัว เป็นจานที่ออกแบบมาเพื่อผสาน 2 รสชาติไว้ในจานเดียวกัน ซึ่งเชฟเลือกใช้ปลา และหอยเชลล์ฮอกไกโด เป็นตัวแทนของคำว่า “Surf” และใช้เนื้อวัวแทนคำว่า “Turf” โดยใช้เทคนิค Parchment Pan-Fried เพื่อป้องกันผิวสัมผัสที่เรียกว่า surface โดนความร้อนโดยตรง เนื้อสัตว์จะไม่สุกเกินไป และผิวสัมผัสที่ได้จะยังสวยงาม พร้อมรสชาติก็ยังคงหวาน และเติมความอร่อยล้ำยิ่งขึ้นด้วยซอสต้มยำกุ้งรสจัดจ้าน
ปิดท้ายกับของหวานที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะเป็นเมนูที่เพิ่มลูกเล่นให้ได้สนุกก่อนกิน ด้วย “Magic Chocolate Ball” ช็อกโกแลตบอลลูกใหญ่ ที่ตั้งมาบนครัมเบิ้ลกรุบกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับช็อกโกแลตร้อนๆ และยังเป็นจุดทำให้เกิดไฮไลท์ของการละลายช็อกโกแลตบอล เผยให้เห็นสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน อย่างไอศกรีมวานิลลา มาสเมนโล โรสแมรี่ เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่สร้างรสชาติหลากหลายในแต่ละคำได้ดีทีเดียว
อยากสัมผัสอาหารรสเยี่ยม พร้อมบรรยากาศวิวต้นไม้สีเขียวสบายตา เชิญมาได้ที่
Red Oven (เรด โอเวน) SO Sofitel Bangkok
Open: วันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 6.30-22.30 น.
Address: ถ.สาทรเหนือ สีลม บางรัก กรุงเทพฯ
Contact: สอบถามเพิ่มเติม 0-2624-0000
รักการทำอาหารไทยและขนมหวานโบราณ โดยยึดต้นตำรับชาววัง และเป็นผู้เขียนหนังสือ "เลาะรั้วครัววัง"
อาจารย์ มาโนชญ์ พูลผล
ที่ปรึกษาการถ่ายภาพ ช่างภาพ วิทยากร บรรยายเรื่องการถ่ายภาพ ของ NIKON THailand
อาจารย์ สยาม เอี่ยมพิชัยฤทธิ์ (ที่ปรึกษาการถ่ายภาพ )
ไม่น่าเชื่อว่าระยะเวลา 365 วันผมทำอาหาร แทบจะไม่ซ้ำกันเลย ด้วยวัตถุดิบของผมก็ได้ จากตลาดใกล้บ้าน
ทนายอ้วน (Chubby Lawyer)
Chef Instructor of Western Culinary Arts of Dusit Thani College
เชฟเบิ้น Wachiravit Homboonyong
Foodie
ผู้หลงรักการทำและชิมอาหาร
Partner
พันธมิตร และแบรนด์วัตถุดิบอาหาร
Professional service
หน่วยงานและองค์กร
Comment (0)