Direction

วิธีทำเนื้อเค็มต้มกะทิ
- เริ่มจากนำเนื้อเค็มไปย่างก่อนครับ จะย่างเตาถ่าน หรือเตาแก๊สอันนี้แล้วแต่ความสะดวก แต่ถ้าบ้านไหนได้ย่างกับเตาถ่าน ก็จะได้ความหอมและได้ฟิลแบบโบราณมากกว่านิดนึงครับ ซึ่งการที่ให้นำเนื้อไปย่างก่อนนี่ก็เพื่อให้ได้ในเรื่องของกลิ่นนี่แหละครับ ดังนั้นก็ย่างนิดๆ พอเป็นพิธี ไม่ต้องถึงขั้นให้เนื้อเค็มของเราสุกแห้งครับ แล้วก็หั่นเนื้อตามขวางเพื่อให้เนื้อเคี้ยวนุ่มทานง่าย จากนั้นก็ทุบซักหน่อย เวลาต้มรสชาติของเนื้อจะได้ออกมาผสมกับน้ำกะทิ แล้วน้ำกะทิ และรสชาติต่างๆ จะได้เข้าเนื้อเพิ่มความอร่อยมากขึ้นด้วย
- ส่วนหน่อไม้ดอง อันนี้ผมอยากให้เลือกเจ้าที่อร่อยไว้ใจได้ และสะอาดสักหน่อยครับ เพราะให้ผลในเรื่องของรสชาติค่อนข้างมากเลยทีเดียว ดังนั้นก่อนนำไปต้มกะทิ เราจึงต้องนำมาต้มทิ้งน้ำก่อนซัก 1 ครั้ง เพื่อล้างรสชาติเปรี้ยวและเค็มออกไปซัก 1 น้ำก่อน จากนั้นค่อยนำไปต้มในน้ำเดือดจัดซัก 5 นาที แล้วนำลงน็อคในน้ำเย็น แล้วบีบน้ำออกให้หมดก่อนนำมาหั่นชิ้นพอดีคำ
- จากนั้นก็นำกะทิใส่หม้อขึ้นตั้งไฟกลางครับ เอาแค่พอเดือดปุดๆ ก็ใส่เนื้อลงไป ตามด้วยหน่อไม้ครับ ต้มจนเดือดหรี่ไฟลงแล้วเคี่ยวต่อซัก 15-20 นาที ระหว่างรอก็คนไปเรื่อยๆ นะครับ กะทิจะได้ไม่แตกมัน
- ได้ที่แล้วค่อยนำหอมแดงบุบๆ แล้วซอยหยาบๆ ใส่ตามลงไป และก็ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไปเพิ่มซัก 3-4 ใบ
- คนให้น้ำมันอโรม่าของหอมแดง และมะกรูดกระจายตัวออก จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลมะพร้าว ให้ได้ความกลมกล่อม 3 รสกำลังดีนะครับ
- เมื่อต้มเนื้อจนได้ที่ กะทิจะงวดลงเหลือประมาณกึ่งหนึ่ง ก็ปิดไฟตักลงถ้วยเสิร์ฟ แต่งหน้าด้วยหอมแดงซอย ลูกโดด และใบมะกรูดหั่นฝอยเล็กน้อย
.
เพียงเท่านี้ก็ได้ "เนื้อเค็มต้มกะทิ" รสชาติอร่อยๆ ไว้ทานกับข้าวสวยร้อนๆ แล้วครับ ข้อควรระวังเล็กน้อยก็คือ ตอนปรุงพยายามใส่น้ำปลาเบามือไว้ซักหน่อย เพราะในเนื้อเค็มเองเค้ามีรสชาติอยู่แล้ว จากนั้นก็ค่อยๆ ชิม ค่อยๆ ปรุงเติมไปตามชอบครับ ซึ่งรสชาติหลักของเมนูนี้ ก็คือเค้าจะมีความเปรี้ยวนำมาเล็กน้อย ตามด้วยหวาน และเค็มอ่อนๆ นั่นเองครับ