" สะเดา " เป็นผักที่มีรสขมและออกดอกในหน้าหนาว คนไทยนำสะเดามาประกอบอาหารเข้าคู่กับน้ำปลาหวานและปลาดุกย่าง บางคนอาจปรับเป็นปลาทูทอดและเพิ่มผักชีเข้าไปด้วย เพื่อช่วยลดความขมของสะเดาจะได้รับประทานได้ง่ายขึ้น
ประโยชน์ของอาหารเมนูนี้เชื่อว่า กินก่อนป่วยช่วยป้องกันการเป็นไข้ ถ้ากินตอนเป็นไข้จะช่วยให้หายป่วยได้ ไข้ที่ว่านี้คือไข้ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล หรืออุตุสมุฏฐาน ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ทำให้มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว น้ำมูกใสไหลไม่รู้ตัว ซึ่งคนโบราณเรียกว่า ไข้หัวลม
สะเดามีสรรพคุณทางยามากมาย คือ สรรพคุณบำรุงไฟธาตุ รสขมของสะเดาช่วยเรียกน้ำย่อย และช่วยให้ขับน้ำดีตกลงสู่ลำไส้มากขึ้น ทำให้ร่างกายเกิดความอยากอาหาร ช่วยย่อยอาหาร ช่วยให้อุจจาระละเอียดขับถ่ายคล่อง และช่วยให้ร่างกายนอนหลับสบาย
ในเมนูสะเดาน้ำปลาหวานประกอบด้วย น้ำมะขามเปียก รสเปรี้ยวขับเสมหะในลำไส้ แก้ไอ แก้ท้องผูก หอมแดงเจียว หอมแดงรสเผ็ดร้อน แก้ไข้เพื่อเสมหะ แก้โรคในปาก บำรุงธาตุ แก้ไข้หวัด
กระเทียมเจียว กระเทียมรสเผ็ดร้อน ขับลมในลำไส้ แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร พริกแห้ง รสเผ็ด ช่วยเจริญอาหาร ขับลม ช่วยย่อย ปลาดุก บำรุงธาตุดิน ได้โปรตีนบำรุงร่างกาย หรือถ้าเป็นปลาทูก็ได้สารไอโอดีนเพิ่มด้วย บางคนมีผักชีหอมแนมด้วย ผักชีหอมช่วยในการย่อยอาหาร บำรุงกระเพาะ เจริญอาหาร แก้หวัด ขับเหงื่อ ลดน้ำตาลในเลือด
ประโยชน์ของอาหารเพียง 1 มื้อ ช่วยเปลี่ยนสภาพร่างกายที่กำลังอ่อนแอเข้าสู่ห้วงความเจ็บป่วย ให้กลับมาแข็งแรงและหายได้ ใครไม่เชื่อต้องลองพิสูจน์เมนูสะเดาน้ำปลาหวานแก้ไข้ได้แน่จริงหรือ
การใช้ประโยชน์ของสะเดายังมีมากกว่านี้อีก ทั้งด้านยารักษาโรค และเป็นสารธรรมชาติกำจัดแมลงศัตรูพืช เวลานี้สะเดาได้ถูกพัฒนาทั้งความรู้และผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในวงการเครื่องสำอาง โดยเฉพาะยาสีฟันและยารักษาสิว เพราะมีคุณสมบัติต้านเชื้อก่อสิวและต้านเชื้อก่อโรคฟันผุ
น้ำมันเมล็ดสะเดาใช้ทำสบู่ ยารักษาเส้นผม รักษาโรคผิวหนัง นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการคัน บรรเทาอาการผิวแห้ง รักษาโรคเรื้อนกวาง สะเก็ดเงิน หิด เป็นต้น
รูปภาพจาก samunpai.com
Comment (0)