สูตรอาหาร

ร่วมสร้าง COOK BOOK ส่วนตัว
เพียงแนะนำสูตรอาหารของคุณที่นี่

เริ่มเลย!

บริโภคนิยมทำเด็กไทย “อ้วนเร็วที่สุดในโลก”

หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ 16 Feb 2556 15:34:36 9284 view

กรมอนามัยได้เคยประมาณการเกี่ยวกับสัดส่วนของเด็กไทยที่อาจจะเข้าสู่สภาวะเป็นเด็กอ้วนไว้ว่า ในปีพ.ศ. 2558 เด็กก่อนวัยเรียนในประเทศไทยจะกลายเป็นเด็กอ้วนในสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 5 นั่นหมายความว่า ในเด็ก 5 คน จะมีเด็กอ้วน 1 คน และเด็กวัยเรียน จะมีสัดส่วนของเด็กอ้วนอยู่ที่ 1 ใน 10

จากข้อมูลพบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อุบัติการณ์โรคอ้วนในเด็กไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และตามสถิติอาจสรุปได้ว่า เป็นประเทศที่มีการเพิ่มจำนวนเด็กอ้วนเร็วที่สุดในโลก มีรายงานว่า เฉพาะช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนเด็กก่อนวัยเรียนอ้วนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 36 และเด็กวัยเรียนอายุ 6-13 ปี อ้วนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.5 แล้วจะไม่ให้ตกใจได้อย่างไร..!!

กล่าวว่า ในทางการแพทย์ “อ้วน” ถือเป็น “โรค” เพราะว่าสิ่งที่ตามมา ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และความเสี่ยงต่อไปก็เป็นโรคหัวใจ โรคทางเดินหายใจ ฯลฯ

โรคอ้วนกำลังกลายเป็นโรคร้ายที่กำลังคุกคามเด็กทั่วโลก โดยเฉพาะเด็กที่เกิดในประเทศศิวิไลทั้งหลาย ไม่เว้นแม้แต่ประเทศที่กำลังพัฒนา ซึ่งถ้าจะชี้ให้ชัดและแคบลงไปอีก ก็คือเด็กในประเทศที่ตกอยู่ในกระแส “บริโภคนิยม” ทั้งหลายนั่นแหละ

ประการแรก
โปรดเลิกค่านิยมที่ว่าลูกยิ่งอ้วนจ้ำม่ำยิ่งน่ารักเสียเถิด อย่าคิดว่าอ้วนตอนเด็กไม่เป็นไร โตขึ้นก็ผอมเอง เพราะจากงานวิจัยและสถิติทุกสำนักพบว่าเด็กอ้วนมีโอกาสเป็นผู้ใหญ่อ้วนในอนาคต

ประการที่สอง
สร้างนิสัยเรื่องการกินให้พอดีตั้งแต่เล็ก ไม่ต้องกลัวว่าลูกจะหิว หรือกินไม่อิ่ม โดยปกติเมื่อเด็กอิ่มเขาจะรู้ตัว แต่ส่วนใหญ่พ่อแม่หรือผู้ปกครองมักใช้สายตาของผู้ใหญ่ แล้วบอกว่าลูกยังไม่อิ่มหรอกกินไปนิดเดียวเอง ก็เด็กตัวนิดเดียวจะให้กระเพาะใหญ่เท่าผู้ใหญ่ได้อย่างไร สิ่งสำคัญควรดูจากการเจริญเติบโตของลูก ส่วนสูงและน้ำหนักสัมพันธ์กันไหม มีพัฒนาการด้านอื่นที่รุดหน้าหรือไม่ควบคู่ไปด้วย

ประการที่สาม
ฝึกนิสัยกินอาหารที่มีประโยชน์มากกว่าอาหารที่อร่อย ถ้าปลูกฝังตั้งแต่เล็กจะได้ผลมากกว่าตอนโต ถ้าเขาถูกตามใจเรื่องกินมาตลอด การแก้พฤติกรรมจะทำได้ยากกว่า โดยปกติลูกจะกินอาหารตามพ่อแม่ ยิ่งถ้าพ่อหรือแม่เป็นคนทำอาหารเองก็ยิ่งง่ายต่อการปลูกฝังเรื่องการกินที่ถูกหลักโภชนาการ ที่สำคัญพ่อแม่และผู้ใหญ่ในบ้านต้องเป็นตัวอย่างในการกินที่ดีด้วย

ประการที่สี่
หลีกเลี่ยงการกินอาหารนอกบ้าน ถ้าลูกคุ้นเคยกับการกินอาหารนอกบ้านแล้ว มักจะติดใจและชอบที่จะกินอาหารที่มีแคลอรี่สูง ไขมันสูง เพราะอาหารเหล่านั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ถูกใจผู้บริโภค ยิ่งถ้ากลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กล่ะก็ เขาจะออกแบบเน้นหวานมันกรอบแคลอรี่สูงๆ ทั้งนั้น และเมื่อเด็กบริโภคติดแล้ว โอกาสที่จะกลับมากินอาหารที่มีประโยชน์ก็จะลดน้อยลง

ประการที่ห้า
ชวนลูกออกกำลังกาย คิดซะว่าเป็นการออกกำลังกายกันทั้งครอบครัว ทำเพื่อทุกคนในครอบครัวจนติดเป็นนิสัย พยายามหาโอกาสหรือสร้างกิจกรรมเพื่อให้ทุกคนในครอบครัวได้เคลื่อนไหวร่างกาย ถ้าปลูกฝังตั้งแต่เล็กอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เด็กๆ ติดการออกกำลังกาย ซึ่งจะนำมาสู่การมีสุขภาพร่างกายที่ดี แต่เหนือสิ่งอื่นใด ก็คือการได้ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว เป็นการกระชับความสัมพันธ์และใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น

ปัจจุบันปัญหาเรื่องเด็กอ้วนกำลังจะกลายเป็นโรคระบาดไปทั่วโลกตามกระแสบริโภคนิยมที่ขยายตัวไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และยากต่อการทัดทาน สิ่งที่จะทำได้ดีที่สุดคือการจัดการความอยากของตัวเอง จัดการกับกิเลสของตัวเอง ซึ่งพ่อแม่เท่านั้นที่จะต้องช่วยลูกจัดการในเรื่องนี้ ด้วยการปลูกฝังสิ่งที่ดี ที่เป็นประโยชน์เหมาะสมให้กับลูก

Comment (0)

Write Review

ยิ้ม ฮา กระพริบตา ตะลึง อ้าปากหวอ แลบลิ้น ร้องไห้ หน้าบึ้ง ขมวดคิ้ว โกรธ ยิ้มมีเลศนัย แหวะ ใส่แว่น ซีดเซียว เหงื่อตก เอ๋อจับ เอ๋อจับ Quuu สบายใจ แจ่ม !! ตายซาก โมโหสุดๆ หัวงู ฉลอง เย้ หลับกลบเกลื่อน ยกนิ้วให้ แย่มั่กๆ อันตราย ยิ้มกว้าง หัวเราะ กระพริบตา เท่ห์ ขอโทษ ท้อแท้ หลับ หงุดหงิด ตัวป่วน rrrrrrrrr โอ้ว เฮ้อ ร้องไห้ ดีใจ ฉุน งัวเงีย น่ารัก เริงร่า

Official Editor

Warm Welcome

Foodie

ผู้หลงรักการทำและชิมอาหาร

Partner

พันธมิตร และแบรนด์วัตถุดิบอาหาร

Professional service

หน่วยงานและองค์กร

Contact Us

Bangkok Thailand

+6681 559 9599

foodietaste88@gmail.com